รศ.ดร.นราพร สมบูรณ์นะ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ หัวหน้าโครงการพัฒนาชุดตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-LAMP เผยถึงความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งของชุดตรวจวินิจฉัยเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-LAMP ที่พัฒนาขึ้นโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งสามารถตรวจวินิจฉัยโควิด-19 เช่นเดียวกับวิธี Real Time PCR ที่เป็นที่นิยมใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยได้เพิ่มความพิเศษในการตรวจสารพันธุกรรมของไวรัสแบบ 3 ยีนซึ่งครอบคลุมวงจรชีวิตของไวรัส ทำให้มีความไวในการตรวจสูง ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือในการตรวจที่ยุ่งยาก ไม่มีราคาแพงเหมือน Real Time PCR สามารถตรวจเชื้อโควิด-19 ได้ทั้งจากโพรงจมูก ลำคอ รวมถึงน้ำลายและวัตถุต่างๆ ในสภาพแวดล้อมที่ปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 จึงเหมาะสำหรับการลงพื้นที่ไปตรวจกลุ่มเสี่ยงในชุมชน โรงเรียน รวมถึงสถานประกอบการต่างๆ
ขั้นตอนการตรวจด้วยวิธี RT-LAMP
รศ.ดร.นราพร เผยว่าจากการลงพื้นที่ตรวจโควิด-19 โดยตรวจจากน้ำลายของกลุ่มเสี่ยงในปริมาณ 5 มิลลิลิตร จะใช้น้ำลายจริงเพียง 1 มิลลิลิตรนำมาสกัดสารพันธุกรรม จากนั้นเป็นขั้นตอนการเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมและเข้าสู่ขั้นตอนการวิเคราะห์ผล เครื่องมือในการตรวจราคาไม่แพง สูตรสำเร็จของชุดตรวจนี้อยู่ที่การทำปฏิกิริยาภายในชุดทดสอบ สามารถเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมทั้ง DNA และ RNA ที่อุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียส มีความไวในการตรวจวัดสูง สามารถรู้ผลการตรวจภายในเวลา 1 ชั่วโมง
จุดเริ่มต้นของชุดตรวจ RT-LAMP แบบ 3 ยีน
รศ.ดร.นราพร กล่าวว่า ก่อนที่โควิด-19 จะระบาดหนัก ห้องปฏิบัติการของภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯได้พัฒนาชุดตรวจด้วยเทคโนโลยีการเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมด้วยอุณหภูมิเดียวเพื่อตรวจวินิจฉัยโรคต่างๆ ที่หลากหลาย รวมถึงการตรวจการปนเปื้อนในอาหาร สำหรับชุดตรวจ RT-LAMP แบบ 3 ยีน เป็นความร่วมมือระหว่างภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และ CU Innovation Hub เพื่อพัฒนาชุดตรวจโควิด-19 ที่ตอบโจทย์ความแม่นยำ ใช้ง่าย และราคาถูก เนื่องจากปัจจุบันชุดตรวจ RT-LAMP ที่มีการใช้กันนั้นมีประสิทธิภาพสูงสุดคือการตรวจแบบ 2 ยีน แต่ RT-LAMP ที่จุฬาฯ พัฒนาขึ้นนั้นสามารถตรวจยีนที่หลากหลายได้ 3 ยีนพร้อมกัน ทำให้เพิ่มความไวในการตรวจพบเชื้อโควิด-19
RT-LAMP แบบ 3 ยีน มีศักยภาพทั้งในการเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรม และสามารถแสดงผลการตรวจโควิดจากการสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสีได้ด้วยตาเปล่า ขั้นตอนการตรวจไม่ยุ่งยากซับซ้อน ผู้ใช้งานสามารถตรวจเชื้อโควิดได้ด้วยตนเองโดยได้รับคำแนะนำการใช้งานจากผู้เชี่ยวชาญ ช่วยลดภาระของบุคลากรทางแพทย์ ที่สำคัญมีราคาถูกกว่าการตรวจแบบ RT-PCR ถึง 5 เท่า
“จากการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างทางคลินิกของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และการลงพื้นที่ตรวจในภาคสนามในกลุ่มตัวอย่างจริง โดยตรวจสารคัดหลั่งจากน้ำลายและวัตถุต่างๆ จากสภาพแวดล้อมในพื้นที่บริเวณนั้น เช่น ลูกบิดประตู ที่กดชักโครก รวมถึงธนบัตร เมื่อนำผลตัวอย่างมาเทียบเคียงกับการตรวจแบบ Real Time PCR ได้ผลการยืนยันประสิทธิภาพที่แม่นยำ ว่องไวและเที่ยงตรงเช่นเดียวกัน แผนงานที่วางไว้จะทำการเก็บสารคัดหลั่งจากกลุ่มตัวอย่างเพิ่มเติมอีก 2,000 ตัวอย่าง เพื่อนำมาวิเคราะห์ประสิทธิภาพเพิ่มเติม” รศ.ดร.นราพรกล่าว
แม่นยำกว่าที่เคยด้วยการตรวจ RT-LAMP แบบ 3 ยีน
นอกจากการนำชุดตรวจโควิดด้วยวิธี RT-LAMP ไปใช้งานในภาคสนาม ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับทีมวิเคราะห์กลิ่นเหงื่อผู้ติดเชื้อโควิดจากภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ และกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ในอนาคตมีแผนในการผลิตชุดตรวจโควิดด้วยวิธี RT-LAMP ในเชิงพาณิชย์ โดยมีการเตรียมสถานที่ในการผลิตชุดตรวจ และจะลงพื้นที่ไปตรวจกลุ่มตัวอย่างเพิ่มขึ้น
“โควิด-19 ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง อนาคตอาจมีการกลายพันธุ์หรือเกิดการระบาดในรูปแบบอื่นๆ ได้ การที่ประเทศไทยสามารถผลิตชุดตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-LAMP ที่สามารถตรวจสารพันธุกรรมของไวรัสได้แบบ 3 ยีน โดยไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ จะช่วยลดปัญหาการระบาดที่รวดเร็วของโรคนี้ลงได้ ในขณะที่การตรวจวินิจฉัยด้วยวิธีมาตรฐานคือ Real Time PCR มีราคาแพง ประชาชนอาจไม่สะดวกที่จะต้องเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาลหรือสถานที่ที่มีการตรวจ ในขณะที่วิธี RT-LAMP สามารถเข้าถึงชุมชน และตรวจพบผู้ติดเชื้อในระยะเริ่มต้นได้แม้จะมีเชื้อโควิดในร่างกายน้อย ซึ่งจะช่วยลดการแพร่ะบาดของโควิด-19 ในระยะยาวได้” รศ.ดร.นราพร กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ที่สนใจให้การสนับสนุนการพัฒนาชุดตรวจ “RT-LAMP แบบ 3 ยีนของจุฬาฯ สามารถติดต่อได้ที่ รศ.ดร.นราพร สมบูรณ์นะ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ อีเมล: Naraporn.S@chula.ac.thโทร.02-218-5070-1หรือที่บริษัท AL-DNA Startup ของ CU Innovation Hub อีเมล: cu.ihub@chula.ac.th